ตังไท้ ของหวานหอมละมุน เคลือบน้ำเชื่อมเหนียวหนึบ

ตังไท้ (Tangtiao) เป็นของหวานดั้งเดิมที่ขึ้นชื่อของเมืองเว่ยฟาง มณฑลชานตง ประเทศจีน เป็นขนมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการผสมผสานระหว่างความนุ่มนวลของแป้งและรสชาติหวานหอมของน้ำเชื่อม

ต้นกำเนิดและประวัติศาสตร์

ตำนานเล่าขานว่า ตังไท้ ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนในยุคราชวงศ์หมิง โดยกลุ่มชาวบ้านในเว่ยฟาง ที่ต้องการสร้างขนมหวานที่หาได้ง่ายและมีคุณค่าทางโภชนาการ

วิธีทำตังไท้

1. เตรียมแป้ง: แป้งสาลีจะถูกผสมกับน้ำและส่วนผสมอื่นๆ เช่น แป้งมันฝรั่ง และยีสต์ เพื่อให้เกิดเนื้อสัมผัสที่นุ่มและเหนียว
2. ขึ้นรูป: หลังจากนั้น แป้งจะถูกนำมาคลึงเป็นแผ่นบางๆ และตัดเป็นเส้นยาว
3. ต้ม: เส้นแป้งจะถูกต้มในน้ำเดือดจนสุก นุ่ม และลอยขึ้นมาด้านบน
4. เคลือบน้ำเชื่อม: เส้นตังไท้ที่สุกแล้วจะถูกนำไปคลุกกับน้ำเชื่อมหวาน ซึ่งทำจากน้ำตาลทราย, น้ำ, และกลิ่นหอมต่างๆ เช่น กลิ่นจัสมิน หรือกลิ่นมะม่วง
5. โรยหน้า: ตังไท้ มักจะถูกโรยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่วบด, ข้าวโพดคั่ว, แป้งข้าวเหนียวสุก และอื่นๆ

ความพิเศษของตังไท้

• ความนุ่มและเหนียวหนึบ: ตังไท้ มีเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ คือ นุ่ม, เหนียวหนึบ และลื่นในปาก
• รสชาติหวานหอม: น้ำเชื่อมที่เคลือบตังไท้ ทำให้มีรสชาติหวานหอมละมุน
• หลากหลายการตกแต่ง: ตังไท้ สามารถตกแต่งหน้าด้วยเครื่องปรุงต่างๆ ตามชอบ เช่น ถั่วลิสง, ข้าวโพดคั่ว, แป้งข้าวเหนียวสุก, เมล็ดฟักทอง

การรับประทานตังไท้

ตังไท้ มักจะถูกเสิร์ฟเป็นของหวานหลังอาหาร หรือเป็นอาหารว่างระหว่างวัน สามารถรับประทานร้อนหรือเย็นก็ได้

เทียบกับขนมไทยที่คล้ายกัน:

สถานที่รับประทานตังไท้

• ร้านอาหารจีน: ส่วนใหญ่มีเมนูตังไท้ให้เลือก
• แผงลอยขายของหวาน: มักจะเห็นแผงลอยขายตังไท้ตามตลาดหรือบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่าน

ข้อเท็จจริงสนุกๆ

• ในเมืองเว่ยฟาง มีเทศกาลตังไท้ประจำปีที่ชาวบ้านจะมาเฉลิมฉลองและชิมตังไท้หลากหลายสูตร
• ตังไท้ เป็นขนมหวานที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน และกำลังเป็นที่รู้จักมากขึ้นในต่างประเทศ