ซาลาเปาทอดหรือที่ชาวสุเฉียนเรียกว่า “Guōtiě” เป็นหนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของเมืองนี้ ซึ่งดึงดูดใจผู้คนด้วยเปลือกนอกที่กรอบและไส้ในที่นุ่มละมุน
ซาลาเปาเหล่านี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากซาลาเปาทั่วไป ซาลาเปาทอดสุเฉียนนั้นทำจากแป้งข้าวสาลีพิเศษที่ถูกหมักอย่างช้าๆ และผ่านกระบวนการนวดอย่างพิถยันทำให้ได้เนื้อแป้งที่นุ่มหนึบ เมื่อนำไปทอดด้วยไฟกลางจะเกิดเปลือกนอกที่กรอบนอกและนุ่มใน
ไส้ของซาลาเปาทอดสุเฉียนนั้นมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นไส้หวานหอมอย่างไส้ถั่วแดง ไส้เนื้อหมู ไส้ไก่ หรือไส้ผัก แต่ไส้ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือไส้ถั่วแดง ซึ่งมีความหวานที่ลงตัวและกลิ่นหอมของถั่วที่อบอวล
วิธีการทำซาลาเปาทอดสุเฉียน
ขั้นตอนการทำซาลาเปาทอดสุเฉียนนั้นค่อนข้างยุ่งยากและต้องอาศัยความชำนาญ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน
-
เตรียมแป้ง: เริ่มต้นด้วยการผสมแป้งข้าวสาลี น้ำ Yeast และน้ำตาลเข้าด้วยกัน จากนั้นนวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วพักไว้ในอุณหภูมิห้องประมาณ 2 ชั่วโมง จนกว่าแป้งจะขึ้นฟู
-
เตรียมไส้: สามารถเลือกไส้ตามความชอบได้
- ไส้ถั่วแดง: ถั่วแดงบดละเอียดผสมน้ำตาลทรายและไขมัน
- ไส้หมู: หมูบดผัดกับเครื่องปรุงรส เช่น กระเทียม หอมหัวใหญ่ และน้ำมันหอย
-
ขึ้นรูปซาลาเป่า: แบ่งแป้งเป็นก้อนเท่าๆ กัน จากนั้นนำมาปั้นเป็นแผ่นกลมๆ ใสไส้ลงไปแล้วม้วนให้เป็นรูปครึ่งวงกลม
-
ทอดซาลาเป่า: นำซาลาเป่าที่ขึ้นรูปแล้วไปทอดในน้ำมันร้อนจนกว่าเปลือกนอกจะเหลืองทองและกรอบ
-
เสิร์ฟ: ซาลาเปาทอดสุเฉียนพร้อมรับประทานทั้งแบบร้อนหรือเย็น สามารถราดด้วยซอสหวาน หรือโรยหน้าด้วยงาคั่ว
เทคนิคพิเศษในการทำซาลาเปาทอดสุเฉียนให้สมบูรณ์แบบ
- แป้ง: การเลือกแป้งข้าวสาลีคุณภาพดีเป็นสิ่งสำคัญ
- การหมักแป้ง: การหมักแป้งอย่างช้าๆ จะช่วยให้แป้งนุ่มขึ้น และได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มหนึบ
- อุณหภูมิในการทอด: อุณหภูมิของน้ำมันต้องเหมาะสม ไม่ร้อนเกินไปจนทำให้ซาลาเป่าไหม้ หรือเย็นเกินไปจนทำให้แป้งไม่สุก
ความนิยมของซาลาเปาทอดสุเฉียน
ซาลาเปาทอดสุเฉียนเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในสุเฉียนและทั่วประเทศจีน มีร้านขายซาลาเปาทอดอยู่มากมาย และมักจะมีคนต่อแถวเพื่อซื้อซาลาเป่าเหล่านี้
ชนิดไส้ | ความหวาน | ลักษณะ |
---|---|---|
ถั่วแดง | หวาน | ไส้ที่ได้รับความนิยมสูงสุด |
หมู | เค็ม | ไส้ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสชาติเค็ม |
ซาลาเปาทอดสุเฉียน เป็นอาหารที่ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อยเท่านั้น แต่ยังเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองสุเฉียน อีกทั้งยังเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถและฝีมือของคนในพื้นที่